หนึ่งคะแนนจากแดนฝรั่งเศสที่ขุนพลปีศาจแดงเก็บได้ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มันบอกอะไรมากกว่าการเริ่มต้นที่ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ ไม่ใช่การเริ่มต้นความผิดพลาดของกองหลังและผู้รักษาประตูเพราะอันนั้นเรารู้กันดีอยู่แล้วว่าตอนนี้มันกลายเป็น อุบัติเหตุประจำ ของนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้ไปแล้ว แต่สิ่งที่เราเห็นชัดๆ คือการฟื้นคืนชีพจากสถานการณ์ที่ตกเป็นรอง จากโดนนำ 2 – 0 ตีเสมอเป็น 2 – 2 ได้ อย่างนี้มันซอมบี้ชัดๆ
เทปความทรงจำของผมกรอกลับไปช่วงที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รุ่งเรืองถึงขีดสุด บรรยากาศเก่าๆ ในยุคทริปเปิลแชมป์ย้อนกลับมาอีกครั้ง จำได้มั้ยว่าช่วงนั้นเราเป็นทีมที่ยิงประตูช่วงท้ายเกมและพลิกกับมาตีเสมอหรือเอาชนะได้บ่อยที่สุด เรียกว่าถ้ากรรมการไม่เป่านกหวีดจบเกมพวกเราก็ไม่ลุกจากหน้าจอทีวีเพราะกลัวจะพลาดเหตุการณ์สำคัญช่วงท้ายเกม บางครั้งก็ได้เฮบางครั้งก็เป่าปากที่สามารถแบ่งแต้มได้แบบฉิวเฉียด
ผมลืมตากลับมามองทีมชุดปัจจุบัน …. มันจะเป็นการโมเมมากไปมั้ยถ้าผมจะบอกว่าเด็กๆ ของป๋าเฟอร์กี้ชุดนี้ก็เหมือนกัน ถ้าไม่นับเกมที่ปราชัยเชลซีด้วยลูกยิงที่ผมเรียกว่า ชาร์จโกล์ ของบักกุ๊ด เราก็ไม่แพ้ใครติดกันมาห้านัดแล้วมั้งถ้าผมนับไม่ผิด
ให้ตายเถอะ !! พูดไปก็เหมือนปลอบใจกันเองที่ทำผลงานได้ไม่สมกับที่หวังเท่าไหร่ แต่ถ้าดูสถิติย้อนหลังไปหลายๆ ปีล่ะก็จะเห็นว่าช่วงเปิดฤดูกาลเกือบทุกปีเราก็ป้อแป้อย่างนี้นั่นล่ะ แล้วค่อยมาฟื้นตอนช่วงคริสต์มาสต์และจุดระเบิดจนหยุดไม่อยู่ตอนหลังปีใหม่ สุดท้ายก็จบด้วยแชมป์ เพราะงั้นอย่าเพิ่งใจร้อนไปสาวกทั้งหลาย
พูดถึงนัดล่าสุดที่เพิ่งเจ๊าโอลิมปิก ลียง มา บอกตามตรงเลยว่าครึ่งแรกเล่นกันมั่วมากจนเสียสองประตูติดๆ จากความผิดพลาดของโกล์และกองหลัง จังหวะนั้นเอามือกุมกบาลเลยครับท่าน อุบัติเหตุประจำ ของเรากลับมาอีกแล้ว ความผิดพลาดเดิมๆ ของทีโฮที่รับลูกจังหวะแรกไม่อยู่จนต้องเสียประตูจากลูกซ้ำ จำได้มั้ยว่าปีที่แล้วเราร่วงจาก UCL ก็เพราะการทำประตูลักษณะนี้นั่นล่ะ ส่วนลูกที่สองผมยกให้เป็นความผิดของซิลแวสตร์นะที่ยืนมาร์คศูนย์หน้าของลียง ห่างเหลือเกินทั้งๆ ที่ไม่ใช่จังหวะที่จะดักบอลจังหวะสอง แต่จังหวะนี้ทำให้ผมพอจะเห็นลางๆ แล้วล่ะว่าใครเหมาะจะยืนเป็นคู่ขาของริโอ เฟอร์ดินานด์ มากกว่ากันระหว่างสองเอ๋อผู้น่ารักของเรา
นอกจากความผิดพลาดที่ผมภาวนาไม่ให้เกิดซ้ำบ่อยๆ แล้วสิ่งที่ผมเห็นจะจะจากเกมในนัดนี้คือตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดของเจ้าหนูโรนัลโด้ ไม่ใช่ปีกขวาอย่างที่น่าจะเป็น …. จังหวะนี้ต้องปีกซ้ายเท่านั้น!! ดูได้จากเกมในครึ่งหลังพอป๋าโยกน้องโด้มาทางซ้ายเท่านั้นสองประตูกู้ชีพก็จุติทันที แถมทั้งสองลูกเจ้าหนูโด้ยังมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งคู่ อีกอย่างคือการยืนฝั่งซ้ายมันเอื้อต่อจังหวะสับและเปิดบอลของหนูโด้มากกว่าฝั่งขวาน่ะสิ พอจะจำกันได้มั้ยว่าเกมอุ่นเครื่องกับลิสบอนที่เจ้าโด้ตามหลอกหลอนกองหลังของเราน่ะ วันนั้นโด้ยืนปีกซ้าย!! ปัญหาอยู่ที่ว่าแล้วกิ๊กซ์ล่ะจะไปยืนตรงไหน?? …. อันนี้ก็แล้วแต่ป๋าเฟอร์กี้นะครับ
ผมนั่งเฝ้าจอโทรทัศน์จนจบเกมด้วยความหวังว่าเรื่องมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นแต่ก็เปล่า ไม่มีประตูพลิกชนะ ไม่มีจังหวะยิงสวยๆ ของทีม มีแต่ลูกยิงชนเสาของคู่ต่อสู้ให้ได้เสียว ทำให้ผมสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น หรือว่านักเตะทีมเราจะเป็นอุลตร้าแมนที่มีเวลาแสดงพลังจำกัด พอตีเสมอได้ก็ถึงกับขี้เกียจเอาดื้อๆ อันนี้ก็ไม่ถูกใจกองเชียร์ปีศาจที่อยากเห็นทีมรักกระชากไส้คู่ต่อสู้เกมละสามสี่ลูกน่ะสิครับ ….. อยากให้พวกตัวเก๋าที่นิยมการเคาะคืนหลังรู้จังว่าแฟนบอลคิดอะไรอยู่
มันไม่น่าภูมิใจเท่าไหร่หรอกครับที่เก็บได้เพียงแต้มเดียว แต่ก็เอาเถอะคู่ต่อสู้เป็นถึงแชมป์ลีก เอิง 3 สมัยซ้อน เราทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าสอบผ่านในระดับหนึ่งแต่มันก็ยังไม่เข้าขั้นที่จะเป็นสุดยอดทีมที่คว้าโทรฟี่ใบใหญ่ที่สุดมาครอง ไม่เป็นไรถือเป็นการซ้อมใหญ่เตรียมหักปีกหงส์ในเกมหน้าละกัน …. จังหวะนี้ขอตัวไปก่อไฟก่อนละกัน เดี๋ยวตอนย่างหงส์ไฟแรงไม่พอแล้วจะไม่อร่อยไข้หวัดนกยิ่งระบาดอยู่ด้วย!!
Dog never lie, United never died !!!
Baki
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC